วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ลักษณะประหลาดที่น่าสนใจทางพันธุศาสตร์ของตัวละครในวรรณคดีไทย
ดร. ณรงค์ โฉมเฉลา
ที่ปรึกษาสมาคมพันธุศาสตร์ฯ และสมาคมพืชสวนฯ

1.  คำนำ
ตามปกติ มนุษย์และสัตว์ จะให้กำเนิดลูกที่มีลักษณะปกติตามชนิด-พันธุ์ หากมีอาการวิปริตเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นมีนิ้วเพิ่มขึ้นที่มือหรือเท้า มีเขาเพิ่มขึ้นเป็นสามเขาแทนที่จะเป็นสองเขา มีหางมากกว่าหนึ่งหาง ฯลฯ  มนุษย์และสัตว์นั้น ๆ ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้ามีอาการวิปริตมาก ๆ เช่นมีสองหัว ลำตัวติดกัน มีสามแขน โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่รอด มีน้อยมาก  เท่าที่พบกันก็มีแต่ลำตัวติดกัน ดังเช่น “แฝดสยาม” คู่ที่ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย คือ อิน-จัน ที่ตัวติดกันจนตาย  เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีข่าวที่พบหมูที่มีงวงคล้ายช้าง ที่จังหวัดตราด  แต่โดยทั่วไปแล้ว การมีอาการวิปริตมาก ๆ มักทำให้มนุษย์และสัตว์นั้น ๆ ตายก่อนเกิด หรือเกิดมาแล้วก็ตาย  ไม่มีโอกาสอยู่รอดจนเป็นตัวโตเต็มวัย  จะมีก็แต่ในวรรณคดีไทย ที่ตัวละครมีลักษณะประหลาด ที่อยู่รอดจนเป็นตัวเต็มวัย หรือเป็นผู้ใหญ่ และกลายเป็นลักษณะเด่น (ที่ไม่ใช่ dominant) จนเป็นตัวเอกของวรรณคดีเรื่องนั้น  ลักษณะประหลาดเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจทางพันธุศาสตร์
ความวิปริตอีกอย่างหนึ่ง คือลูกผสมระหว่างชนิดของคนกับสัตว์ หรือสัตว์กับสัตว์คนละชนิด ซึ่งตามปกติ จะเกิดได้น้อยมาก เพราะมีกลไกในการป้องกันการผสมข้ามชนิด (reproductive isolation) อย่างไรก็ตาม นาน ๆ ครั้ง เราก็ได้ลูกผสมระหว่างชนิด ที่มีชีวิตอยู่รอด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหมัน ไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อไป  ดังเช่นในกรณีของลูกผสมระหว่างม้า กับลา เกิดเป็นล่อ (ฬ่อ)  ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ  นอกจากนั้น เราอาจจะพบลูกผสมระหว่างชนิดของสัตว์ที่มีความสัมพันธ์กันในทางพันธุกรรมบ้าง ที่เกิดขึ้น และมีชีวิตอยู่จนเป็นตัวโตเต็มวัยได้ ดังเช่นลูกผสมของเสือ กับสิงโต (liger หรือ tigron)   อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะพบลูกผสมระหว่างชนิดของสัตว์ต่าง ๆ ที่คงมีชีวิตอยู่จนเป็นตัวโตเต็มวัยนั้น มีน้อยมาก  แต่ในวรรณคดีไทย เราจะพบตัวละครที่เป็นลูกผสมระหว่างชนิด ตั้งแต่คนกับสัตว์ หรือสัตว์กับสัตว์ แม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ในทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิดกันเลย  จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจทางพันธุศาสตร์เช่นกัน

2.  ตัวละครในวรรณคดีไทยที่มีลักษณะประหลาด
ตัวละครในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง มีลักษณะประหลาด และสามารถอยู่รอดจนเป็นตัวเต็มวัยหรือผู้ใหญ่ และยังสามารถสืบพันธุ์ได้  ตัวละครที่มีลักษณะประหลาดเหล่านี้ มีกำเนิดมา 3 ทาง คือ:
2.1  เกิดจากการกลายพันธุ์ (mutation) หรือการพัฒนาที่วิปริต (abnormal development):  ลักษณะประหลาดที่เกิดขึ้นเป็นฟีโนไทป์ ซึ่งเกิดจากผลของการกลายพันธุ์ (ซึ่งไม่มีทางพิสูจน์ เพราะผู้แต่งไม่ใช่นักพันธุศาสตร์) หรือเกิดจากการพัฒนาที่วิปริต (ซึ่งก็ไม่มีทางพิสูจน์ เพราะผู้แต่งไม่ใช่นักชีววิทยาสาขาการพัฒนาอวัยวะ)  ตัวอย่างของตัวละครในวรรณคดีไทยที่มีลักษณะดังกล่าว มีดังต่อไปนี้:
2.1.1 เรื่องรามเกียรติ์
ทศกัณฐ์:  มี 10 หน้า 20 มือ เป็นการกลายพันธุ์ หรือการพัฒนาที่วิปริต
ยักษ์ตนอื่นๆ:  บางตน มีสีตัว รวมทั้งสีหน้า ผิดจากปกติ เช่นสุครีพ มีตัวสีแดง อินทรชิต มีตัวสีเขียว ไมยราพ มีตัวสีม่วงอ่อน  มารีศ มีตัวสีขาว  ทั้งหมด น่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์
 มารีศ: เป็นยักษ์ ที่มีลำตัวเป็นกวาง (บ้างก็ว่าเป็นสิงห์) ส่วนหัวเป็นเหม (สัตว์ในหิมพานต์ มีลักษณะผสมระหว่างสิงโตกับวัว) เนื่องจากไม่ปรากฏพันธุประวัติ (pedigree) จึงสันนิษฐาน ว่า น่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์ มากกว่าการผสมพันธุ์
ช้างเอราวัณเป็นช้างพาหนะของพระอินทร์ มี 3 เศียร (ที่จริงมีถึง 33 หัว แต่ช่างเขียนเขียนไม่ได้ เลยลดลงมาเหลือเพียง 3 เศียร) มีพลกำลังมาก ไม่ปรากฎว่า มีกำเนิดมาอย่างไร
2.1.2  เรื่องพระสุธนธ์-มโนราห์ 
      กินรี: ตัวเป็นคน แต่มีปีกและหางเป็นนก ที่จริงน่าจะเป็นลูกผสมของคนกับนก แต่ไม่มีประวัติการผสมพันธุ์ จึงสันนิษฐานว่า เกิดมาจากการกลายพันธุ์ เพราะสืบพันธุ์เป็นกินรีต่อไปได้
2.1.3  เรื่องพระอภัยมณี
เงือก: ตัวเป็นคน แต่มีหางเป็นปลา ที่จริงน่าจะเป็นลูกผสมของคนกับปลา แต่ไม่มีประวัติการผสมพันธุ์ดังกล่าว จึงสันนิษฐานว่า เกิดมาจากการกลายพันธุ์  มีทางเป็นไปได้ ที่เงือก เป็นสัตว์ที่เกิดจากจินตนาการมาจากตัวพะยูน ที่เป็นสัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนม สามารถทรงตัวอยู่เหนือคลื่น จนทำให้คนเห็นเป็นมนุษย์ที่มีหางเป็นปลา โดยเฉพาะเห็นพะยูนตัวเมียที่มีนมเหมือนนมคน แต่ยังมีหางเหมือนปลา เลยเกิดจินตนาการว่า มีสัตว์ที่คล้ายคนที่มีหางเหมือนปลา ที่เรียกว่า เงือก (ภาษาอังกฤษใช้ว่า mermaid มาจากคำว่า mer ซึ่งแปลว่าทะเล กับคำว่า maid แปลว่าหญิงสาว สำหรับเงือกผู้ชาย เรียกว่า merman) ในเรื่องพระอภัยมณี มีตัวละครที่เป็นเงือกอยู่ 3 ตัว คือ ตา กับยายเงือก และนางเงือก (ไม่มีชื่อ) ซึ่งเป็นเมียของพระอภัยมณี และแม่ของสุดสาคร
ม้ามังกร: ตามศัพท์ น่าจะเป็นลูกผสมระหว่างชนิดระหว่างม้ากับมังกร (สัตว์ในวรรณคดีของจีน) ม้ามังกรมีลักษณะตัวเป็นม้า หัวเป็นมังกร หางเหมือนนาค ลำตัวเป็นเกล็ดสีดำแวววาว วิ่งในน้ำก็ได้ บนบกก็ได้ แต่จากลักษณะที่ปรากฏในบทวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี ที่ว่า “เขี้ยวเป็นเพชร เกล็ดเป็นนิล ลิ้นเป็นปาน” จึงไม่น่าจะเป็นลูกผสมของม้ากับมังกร แต่เป็นสัตว์ประเภทม้าที่มีลักษณะพิเศษ มีฤทธิ์ จึงน่าจะเกิดมาจากการกลายพันธุ์ของม้า อีกเหตุผลหนึ่งคือ มังกรเป็นสัตว์ในนิยายของจีน จึงไม่น่าจะมีโอกาสมาผสมกับม้าในเมืองไทย (เป็นเรื่องของ geographical isolation) และผู้แต่ง คือสุนทรภู่ ก็ไม่ได้กล่าวไว้ว่า ม้ามังกร เกิดมาได้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือไม่ได้บอกว่าเป็นลูกผสมของม้ากับมังกร หรือสัตว์ประเภทไหน
2.1.4  เรื่องรามเกียรติ์ และกากี
ครุฑเป็นนกที่มีลำตัวเป็นคน แต่มีหัว ขา และปีกเป็นนก ในเรื่องกากี พญาครุฑ ชื่อ เวนไตย  ลักพาเอานางกากีจากท้าวพรหมทัต ไปขึ้นวิมานฉิมพลี ส่วนในเรื่องรามเกียรติ์เป็นครุฑ ชื่อ สดายุ  ที่ขัดขวางไม่ให้ทศกัณฐ์เหาะลักพานางสีดาไปจากพระราม (เป็นที่น่าสังเกตว่า ครุฑในทั้งสองเรื่อง เกี่ยวข้องกับการลักพาผู้หญิงโดยการเหาะไป อาจจะเป็นที่มาของสำนวน “วิวาห์เหาะ” ก็เป็นได้) สันนิษฐานว่า ครุฑน่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์ หรือการพัฒนาที่ผิดปกติของนกยักษ์ ที่มีลำตัวคล้ายคน
2.2  เกิดจากการผสมระหว่างชนิด (interspecific hybridization) ลักษณะประหลาดที่เกิดขึ้นเป็นฟีโนไทป์ ซึ่งเกิดจากผลของการผสมพันธุ์ระหว่างชนิด แต่ไม่เป็นหมันเหมือนลูกผสมระหว่างชนิดตามหลักทางพันธุศาสตร์ ตัวอย่างของตัวละครในวรรณคดีไทยที่มีลักษณะดังกล่าว มีดังต่อไปนี้:
     2.2.1 เรื่องรามเกียรติ์
นางสุพรรณมัจฉา: เป็นลูกผสมระหว่างชนิดของคนกับปลา ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นปลา เกิดจากการผสมระหว่างทศกัณฐ์ (ความจริงเป็นยักษ์ แต่อนุโลมให้เป็นคน แต่น่าจะเป็นคนละ subspecies กับคน) กับนางปลา (ปลา) จึงมีลักษณะผสมระหว่างพ่อ (คน) กับแม่ (ปลา) คือเป็นเงือก
มัจฉานุ: เป็นลูกผสมระหว่างชนิดของเงือก (นางสุพรรณมัจฉา) กับลิง (หนุมาน) มีลักษณะกึ่งกลางระหว่างปลากับลิง คือตัวเป็ยลิง หางเป็นปลา เป็นลักษณะประเภท no dominance
         ที่จริง กำเนิดของมัจฉานุเป็นเรื่องพิลึกพิลั่น เพราะมีบรรพบุรุษที่ห่างไกลกันมาก มาผสมพันธุ์กัน กล่าวคือ มียายเป็นปลา คือนางปลา มีตาเป็นยักษ์ คือทศกัณฐ์ (หรืออนุโลมว่าเป็นคน)  มีย่าเป็นคน คือนางสวาหะ และมีปู่เป็นลม คือวายุเทพ (เหลือเชื่อเกินไปหน่อย เพราะลมไม่ใช่สิ่งที่มีชีวิต ไม่น่าผสมพันธุ์กับคนได้เลย แต่ในทางวรรณคดี จัดให้ลมเป็นเทพองค์หนึ่ง จึงอนุโลมให้เป็นคนได้)  ดังแผนผังการผสมพันธุ์ข้างล่าง

2.2.2  เรื่องพระอภัยมณี
สุดสาคร: เป็นลูกผสมระหว่างชนิดของคน (พระอภัยมณี) กับเงือก (นางเงือก) มีลักษณะเป็นคนที่สมบูรณ์ แสดงว่า ลักษณะคนของพระอภัยมณี สามารถข่มลักษณะเงือกของนางเงือกได้อย่างสมบูรณ์ (complete dominance)
2.2.3  เทวนิยาย
นกหัสดีลิงค์: น่าจะเป็นลูกผสมระหว่างชนิดระหว่างนกกับช้าง เพราะมีลำตัวเป็นนก หัวเป็นช้าง มีงา มีจะงอยปากเป็นงวง มีพลกำลังเทียมเท่ากับช้าง 5 เชือก  ในเทวนิยายกล่าวว่า นกหัสดีลิงค์ เป็นหนึ่งในสัตว์จำพวกนก อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
2.3  เกิดจากการผสมภายในชนิด (intraspecific hybridization): ลักษณะประหลาดที่เกิดขึ้น เป็นฟีโน ไทป์ ซึ่งเกิดจากผลของการผสมพันธุ์ภายในชนิด ตัวอย่างของตัวละครในวรรณคดีไทยที่มีลักษณะดังกล่าว มีดังต่อไปนี้:
2.3.1  เรื่องพระอภัยมณี
สินสมุทร: เป็นลูกผสมระหว่างชนิดของคน (พระอภัยมณี) กับยักษ์ (นางผีเสื้อสมุทร ซึ่งน่าจะเป็นคนละ subspecies กับมนุษย์) มีลักษณะเป็นคนที่สมบูรณ์ แต่แข็งแรงผิดปกติ (heterosis)
3.  ข้อคิดจากตัวละครในรรณคดีไทย
3.1 ความคิดในด้านการผสมพันธุ์เนื่องจากเป็นวรรณคดี ที่ไม่ใช่เรื่องทางวิทยาศาสตร์ จึงไม่ใช้       เหตุผลใด ๆ ในเรื่องการผสมพันธุ์ มีการผสมข้ามชนิด ที่ไม่มีความสัมพันธ์กันแต่อย่างใด เช่น คน x ปลา  เงือก x ลิง    นก x ช้าง   ซึ่งในทางชีววิทยา เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
3.2  ลักษณะข่ม (dominance): ในการผสมบางคู่ผสม (cross) ลูกผสมออกมาเหมือนพ่อ ซึ่งมีลัษณะข่ม (complete dominance) เช่น
    - คน (พระอภัยมณี) กับเงือก (นางเงือก) มีลูกออกมาเป็นคน คือสุดสาคร
แต่ส่วนใหญ่ ลูกที่ออกมามีลักษณะกึ่งกลางระหว่างพ่อกับแม่ (no dominance) เช่น
    - คน (ทศกัณฐ์) กับนางปลา (ไม่มีชื่อ) ได้ลูกออกมามีลักษณะกึ่งกลาง คือมีตัวเป็นคน หางเป็นปลา หรือเงือก (นางสุพรรณมัจฉา)
    - เงือก (นางสุพรรณมัจฉา) กับลิง (หนุมาน) ได้ลูกออกมามีลักษณะกึ่งกลาง ที่ตัวเป็นลิง หางเป็นปลา (มัจฉานุ)
3.3  คนกึ่งสัตว์วรรณคดีไทยหลายเรื่อง มีตัวละครเป็นคนที่มีรูปร่างบางส่วนเป็นสัตว์ เช่น
3.3.1 เงือก: เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนกับปลา มีการอ้างถึงนางเงือกในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง เช่นในเรื่องรามเกียรติ์ มีการผสมพันธุ์ระหว่างคน (ทศกัณฐ์) กับนางปลา (ไม่มีชื่อ) ได้ลูกออกมาเป็นนางสุพรรณมัจฉา ซึ่งมีลักษณะเป็นเงือก คือมีตัวเป็นคน หางเป็นปลา ส่วนในเรื่องพระอภัยมณี เงือกเป็นเผ่าพันธุ์ที่สืบเชื้อสายต่อ ๆ กันไปได้ แต่น่าจะเป็นจินตนาการของสุนทรภู่ ที่เอาเรื่องของตัวพะยูนมาอุปโลกให้เป็นเงือก ในเรื่องนี้ มีตากับยายเงือก (ที่คอยช่วยพระอภัยจากการเอาตัวกลับคืนไปของนางผีเสื้อสมุทร) มีลูกออกมาเป็นนางเงือก (ไม่มีชื่อ) ที่เป็นเมียของพระอภัมณี ซึ่งมีลูกเป็นสุดสาคร มีลักษณะเป็นคน
3.3.2 กินรี: เป็นคนที่มีส่วนปีก และหางเป็นนก หากเป็นเพศชาย เรียกว่า กินร (ไม่ใช่กินนอน ดังเช่นประเภทหนึ่งของโรงเรียนที่นักเรียนอยู่ประจำ)
3.3.3 ครุฑ: เป็นนกที่มีลำตัวเป็นคน แต่มีหัว ขา และปีกเป็นนก ครุฑกับกินรี คล้ายกันตรงที่เป็นคนที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นนก ต่างกันตรงที่กินรี ทั้งตัว รวมทั้งหัวด้วย เป็นคน แต่มีปีกและหางเหมือนนก ในขณะที่ครุฑ มีส่วนที่เป็นคนเฉพาะตัว ส่วนอื่นเป็นนก รวมทั้งหัว ขา และปีก
3.4  สัตว์ประหลาด: วรรณคดีไทยหลายเรื่อง มีตัวละครเป็นสัตว์ประหลาด ที่ยังคงมีลักษณะส่วนใหญ่ เป็นสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น
3.4.1  ม้ามังกร: มีโครงร่างเป็นม้า  แต่มีหัวเป็นมังกร หางเหมือนนาค (งูยักษ์ - ไม่ใช่นากกินปลา) ลำตัวเป็นเกล็ดสีดำแวววาว อีกทั้งยังมี “เขี้ยวเป็นเพชร เกล็ดเป็นนิล ลิ้นเป็นปาน”  จึงเป็นม้าที่ประหลาดมาก  แม้ว่าจะมีชื่อเป็นมังกร แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมังกรของจีนแต่อย่างใด  ที่จริงอาจไปเหมือนกับม้าในเทพนิยายของชาวกรีกที่ชื่อ Pegasus (ม้ามีปีก) แต่ในเรื่องพระอภัยมณี ไม่มีประวัติความเป็นมาของม้ามังกรแต่อย่างใด จึงไม่รู้ว่าพ่อแม่ของม้ามังกรเป็นอะไร และลูกของม้ามังกรเป็นอะไร จึงบอกไม่ได้ว่า มีกำเนิดมาอย่างไร สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการกลายพันธุ์จากม้า หรือการพัฒนาที่ผิดปกติของม้า
3.4.2  ช้างเอราวัณ: มีโครงร่างเป็นช้างทุกประการ แต่มีหัวถึง 3 หัว น่าจะเกิดจากการพัฒนาที่วิปริต ในวรรณดีเรื่องรามเกียรติ์ระบุว่า เป็นช้างเผือก ร่างกายใหญ่โต มีพลกำลังมาก
4.  วิจารณ์
ผู้เขียนรู้ดีว่า เรื่องที่ท่านผู้อ่านได้อ่านมาถึงตอนนี้ เป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ที่เกิดจากอาการเพ้อของผู้เขียน ที่สนใจในความแปลกประหลาดของสิ่งที่มีชีวิต หรือที่มีอาการวิปริต (abnormal) และได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับความวิปริตของพืชและสัตว์มาแล้วหลายเรื่อง (จนที่บ้านของผู้เขียนกล่าวหาว่า คนที่สนใจเรื่องพืชและสัตว์ประหลาด เป็นคนประหลาดด้วย) แต่เรื่องนี้ประหลาดกว่าเพื่อน เพราะไม่ใช่ความประหลาดที่เกิดจริง ๆ ในธรรมชาติ แต่เป็นจินตนาการของผู้แต่ง ซึ่งไม่ใช่นักชีววิทยา หรือนักพันธุศาสตร์ ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดได้จริง ๆ  แต่ในฐานะที่เป็นนักพันธุศาสตร์คนหนึ่ง จึงรวบรวมเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ผู้ที่สนใจในวิชาพันธุศาสตร์ นำไปคิดว่า มันมีทางเป็นไปได้ไหม โดยใช้องค์ความรู้ในวิชาพันธุศาสตร์มาประกอบ และอย่างน้อย ก็เพื่อฟื้นความรู้ ในทฤษฎีทางพันธุศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดลักษณะของสิ่งที่มีชีวิต
ก่อนจบ ขอตั้งคำถาม (เป็นภาษาอังกฤษ) ว่า “What will happen if a Norman man marries an Oblong woman?  โดยมี hint ให้ว่า “Normal” แปลว่า “ปกติ”  และ “Oblong” แปลว่ารูปขอบขนาน หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ได้หวังว่า จะมีใครตอบถูก  เพราะคำว่า Normal และ Oblong ในที่นี้ เป็นชื่อเมืองในรัฐอิลลินอยส์ ของสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ลักษณะของบุคคลแต่อย่างใด
 
ขอขอบคุณ: http://www.geneticsociety.or.th/content

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น